Connect with us
Wise usd campaign
ADVERTISEMENT

จีน

หนี้ของสหรัฐฯ ถือเป็นจุดอ่อน แต่จีนมองว่าเป็นโอกาส

Published

on

จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในโลกใต้ พยายามลดอำนาจเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยปรับนโยบายการเงินและส่งเสริมทองคำเป็นหลักประกันค่าเงิน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก


Key Points

  • จีนกำลังพัฒนาตัวเองเป็นผู้เล่นหลักในโลกใต้ โดยเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนา ทำให้เกิดความกลัวว่าจะใช้ "กับดักหนี้" เพื่อขยายอำนาจ สหรัฐฯ มองว่าจีนเป็นความท้าทายระยะยาวเนื่องจากความพยายามในการยุติอำนาจสูงสุดของดอลลาร์ ซึ่งเป็นรากฐานของอำนาจสหรัฐฯ

  • อำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกท้าทายจากสกุลเงินอื่น แต่ยังคงเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก จีนลงทุนในทองคำและเสริมความแข็งแกร่งให้กับหยวน ผ่าน Shanghai Gold Exchange เพื่อสร้างหยวนเป็นสกุลเงินอ้างอิงสำหรับเศรษฐกิจโลก

  • ความไม่ยั่งยืนของหนี้สหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวล จีนตอบสนองด้วยการขายพันธบัตรสหรัฐฯ และเพิ่มการสะสมทองคำ เพื่อลดบทบาทของเงินดอลลาร์และส่งเสริมอำนาจหยวน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน

จีนกำลังสร้างสถานะเป็นผู้เล่นหลักในสิ่งที่ปัจจุบันเรียกว่า “โลกใต้” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งอดีตเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกัน จีนได้กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศเหล่านี้ หลายคนกังวลว่าจีนอาจใช้การเป็นเจ้าหนี้เพื่อบีบบังคับพันธมิตรผ่าน “กับดักหนี้” และสร้างขอบเขตอำนาจของตนเอง ขณะเดียวกัน จีนเป็นภัยคุกคามต่อสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ยืนยันอำนาจของสหรัฐฯ ภายในระเบียบโลก

สถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนได้วางไว้ในกลุ่มบริกส์+ ซึ่งรวมถึงบราซิล รัสเซีย อินเดีย และแอฟริกาใต้ กลุ่มนี้พยายามสร้างโลกหลายขั้วที่ท้าทายอำนาจนำของตะวันตก และสหรัฐอเมริกาในโดยเฉพาะ ในขณะที่สหรัฐฯ มองจีนเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อระเบียบระหว่างประเทศ อำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจทั่วโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือและการใช้งานอย่างแพร่หลาย

ขณะที่เงินดอลลาร์ยังถือเป็นสกุลเงินสำรองที่สำคัญที่สุดในโลก การชะลอตัวของการลงทุนและปัญหาหนี้ในสหรัฐฯ ได้กลายเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญให้จีนดำเนินการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ทางการเงินของตนเอง จีนเริ่มลดการถือครองพันธบัตรของสหรัฐฯ และพยายามเสริมสร้างสกุลเงินหยวนผ่านการสะสมทองคำสำรองและการพัฒนากลไกการซื้อขายทองคำในสกุลเงินหยวน

ยุทธศาสตร์ “ทองคำต่อดอลลาร์” ของจีนมีเป้าหมายในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสกุลเงินหยวนในฐานะสกุลเงินอ้างอิงใหม่ในเวทีเศรษฐกิจโลก การสะสมทองคำสำรองของจีนที่เพิ่มขึ้นทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดเป็นอันดับที่หกของโลก นโยบายนี้ยังช่วยให้จีนควบรวมกำไรจากการเกินดุลการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้หยวนกลายเป็นสกุลเงินหลักในตลาดโลกแทนที่ดอลลาร์ในอนาคต

ในสรุป จีนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับชะตากรรมทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามนโยบายที่ครอบคลุม ทำให้เป็นผู้นำในทั้งภูมิภาคและเวทีโลกอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการทบทวนกลยุทธ์ทางการเงินที่ซับซ้อนและมีการคิดคำนวณอย่างดี

Source : หนี้ของสหรัฐฯ ถือเป็นจุดอ่อน แต่จีนมองว่าเป็นโอกาส

จีน

จีนต้องการอะไรจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป?

Published

on

ประธานาธิบดีไต้หวันเน้นย้ำอธิปไตย ขณะจีนตอบโต้ด้วยซ้อมรบทางทหาร สหรัฐฯ แข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและการทหาร ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียตึงเครียด ผลสืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง.


Key Points

  • ประธานาธิบดีไล จิงเต๋อ กล่าวในสุนทรพจน์วันชาติไต้หวันว่าจะปกป้องอธิปไตยจากการผนวกของจีน ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบรุมล้อมไต้หวัน ย้ำความต้องการรวมเกาะกลับสูงสุด มีกระแสไม่อยากรวมกับจีน

  • วอชิงตันสัมพันธ์กับไทเปผ่านช่องทางพิเศษ แม้ไม่มีสัมพันธ์ทางการฑูต ไต้หวันสำคัญกับสหรัฐฯด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เป็นสินค้าสำคัญและยังขายอาวุธให้ไทเปแม้จะลดลง

  • ทรัมป์อาจช่วยไต้หวันได้ถ้าถูกจีนบุก ด้วยความสำคัญเซมิคอนดักเตอร์ แต่อาจตัดข้อตกลงกับปักกิ่งซึ่งไม่ดีต่ออิสรภาพไต้หวัน ในขณะที่ฮาเรสอาจสนับสนุนพันธมิตรมากกว่าด้วยการสนทนาด้านเศรษฐกิจ

ในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไต้หวัน ไล จิงเต๋อ ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติ โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทเปในการปกป้องอธิปไตยของตนจากการผนวกและการบุกรุก อีกทั้งยังแสดงจุดยืนว่าจีนไม่มีสิทธิ์แทนไต้หวัน จากการกล่าวทำนองนี้ของประธานาธิบดี ทำให้จีนดำเนินการตอบโต้โดยส่งเครื่องบินรบจำนวน 153 ลำล้อมไต้หวันในกรอบของการฝึกซ้อมทางทหาร ซึ่งปักกิ่งใช้วิธีนี้เป็นการส่งคำเตือนที่เข้มงวดต่อแผนการที่จีนมองว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดน

เหลียวหลังเกี่ยวกับสถานการณ์ ทางปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจแบ่งแยกของจีน และต้องกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามที่เคยเป็นมา อย่างไรก็ดี ไต้หวันเองมีระบบการปกครองที่แตกต่างจากจีน และประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนการกลับไปรวมกับจีน ขณะเดียวกัน วอชิงตันแม้ไม่มีความสัมพันธ์ทางการฑูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่ก็มีการติดต่ออย่างต่อเนื่องและมีการค้าขายกันอย่างแน่นแฟ้น ไต้หวันยังเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อเทคโนโลยีระดับโลก และสหรัฐฯ ยังขายอาวุธให้อยู่เสมอแม้จะลดลงในช่วงทันสมัย ไบเดน

จุดยืนของจีนที่มีต่อการใช้กำลังกับไต้หวันนั้นไม่ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าหากเกิดการปะทะ สหรัฐฯ อาจเข้ามาปกป้องไต้หวันในฐานะเกาะที่ปกครองตนเอง ซึ่งได้มีการบ่งบอกจากวอชิงตันในอดีต สีจิ้นผิงเองอาจหวังว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 จะนำไปสู่ผู้นำใหม่ที่มีทัศนคติต่อไต้หวันแตกต่างไปจากเดิม แต่ทางฝั่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์หรือกาาแฮร์ริสที่อาจเป็นไปได้ในอนาคต ยังไม่ชัดเจนถึงนโยบายที่สหรัฐฯ จะมีต่อไต้หวัน

สำหรับสีจิ้นผิงนั้น การรวมไต้หวันกับจีนเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถส่งเสริมตำแหน่งของเขาในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้นำของจีน และในส่วนของสถานการณ์ระหว่างประเทศ การสนับสนุนรัสเซียในสงครามที่ยูเครนได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและตะวันตก แต่อย่างไรก็ดีจีนยังต้องการมีรัสเซียเป็นพันธมิตรเพื่อเผชิญหน้ากับระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งการถอนการสนับสนุนรัสเซียอาจทำให้จีนตกเป็นเป้าหมายเด่น

ในเชิงเศรษฐกิจ สหรัฐฯ และจีนมีความขัดแย้งอยู่ เห็นได้ชัดจากสงครามการค้าและข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี แต่มหานครที่ผู้นำอาจจะผลักดันให้เกิดการลดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ อาจเป็นสิ่งที่สีจิ้นผิงคาดหวังเพื่อรักษาชัยชนะทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น อีลอน มัสก์ ผู้มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจอาจมีบทบาทในการสร้างสรรค์หรือลดความตึงเครียดระหว่างประเทศเหล่านี้ในอนาคต

Source : จีนต้องการอะไรจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป?

Continue Reading

จีน

Black Myth: Wukong – การปฏิวัติเกมของจีนขับเคลื่อนพลังเทคโนโลยีของตนอย่างไร

Published

on

“Black Myth: Wukong ไม่เพียงเป็นความสำเร็จในวงการเกม แต่ยังสะท้อนอิทธิพลเทคโนโลยีและวัฒนธรรมจีน สร้างแรงกดดันต่อการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ.”


Key Points

  • ตำนานสีดำ: Wukong เกมใหม่จากจีน สร้างกระแสสำคัญในวงการเทคโนโลยีระดับโลก วางจำหน่ายโดยวิทยาศาสตร์เกมเมื่อ 19 ส.ค. 2567 ทำให้เกมนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมของจีน โดยเกมนี้ใช้เอนจินอันเรียล 5 สร้างกราฟิกที่สมจริงและมีความซับซ้อน

  • การเปิดตัวของ Black Myth: Wukong เป็นการบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในอำนาจทางเทคโนโลยี ช่วยกระตุ้นการพัฒนาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน แม้จีนยังคงต้องพึ่งพาชิปต่างประเทศในงานสร้างเกม แต่เกมนี้เพิ่มแรงกดดันในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ

  • Black Myth: Wukong ไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในกลยุทธ์พลังงานอ่อนของจีน ช่วยส่งออกวัฒนธรรมจีนไปทั่วโลกและเพิ่มความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ เกมนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้จีนลดช่องว่างทางเทคโนโลยีกับตะวันตก

วิดีโอเกมอาจถือเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่ของจีนในด้านเทคโนโลยีโลก โดย “ตำนานสีดำ: Wukong” ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงความสมดุลของพลังงานเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยความสำเร็จที่ไม่เพียงแค่ทำลายสถิติของจำนวนการเล่นเกม แต่ยังสามารถท้าทายการครอบครองของชาติตะวันตกในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกด้วย เกมนี้มาจากบริษัทวิทยาศาสตร์เกมของจีน และมีพื้นฐานจากนวนิยายจีนคลาสสิก “เดินทางไปทางทิศตะวันตก” เนื้อเรื่องที่ดึงดูดใจและกราฟิกที่น่าทึ่งของเกม ช่วยให้ “ตำนานสีดำ: Wukong” ได้รับการยอมรับในวงกว้าง กลายเป็นที่รู้จักทางวัฒนธรรมทั้งในและนอกประเทศจีน

ในระดับโลก เรื่องราวความสำเร็จของเกมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัย ซึ่งจำเป็นสำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกเข้มข้น ในขณะที่จีนพยายามพัฒนาชิปและอุปกรณ์เทคโนโลยีของตัวเองให้ทัดเทียมกับระดับโลก วิดีโอเกมอย่าง “ตำนานสีดำ: Wukong” ได้กลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าในภาคส่วนนี้ แอพพลิเคชั่นของ GPU ที่มีความซับซ้อนสูง เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการประมวลผล AI ที่สำคัญ สิ่งที่จีนได้ดำเนินการคือการเชื่อมโยงวิดีโอเกมเข้ากับเศรษฐศาสตร์การเมืองและนโยบายรัฐอย่างชัดเจน

นอกจากบทบาททางเศรษฐศาสตร์แล้ว “ตำนานสีดำ: Wukong” ยังเป็นกลยุทธ์ soft power ที่จีนใช้เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมและเทคโนโลยี จีนพยายามส่งออกแนวคิดและค่าทางวัฒนธรรมผ่านการบันเทิง ซึ่งเดิมถูกครอบงำโดยโลกตะวันตก ความสำเร็จที่เหนือธรรมดาของเกมนี้ในตลาดโลกกำลังช่วยเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของจีนในสายตาของชาวโลก และกลายเป็นเครื่องมือในการดึงดูดความสนใจในอำนาจวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของประเทศ

สุดท้ายแล้ว “ตำนานสีดำ: Wukong” ไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จทางวัฒนธรรม แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญในเชิงกลยุทธ์ที่ส่งมอบสัญญาณเกี่ยวกับศักยภาพของจีนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก และก้าวสู่การเป็นผู้นำใหม่ในโลกดิจิทัล การถูกมองว่าเป็นแค่เกม อาจไม่เพียงพอต่อการประเมินบทบาทสำคัญที่เกมนี้และเกมอื่น ๆ จะมีต่อการเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่จีนก้าวไปในอนาคต.

Source : Black Myth: Wukong – การปฏิวัติเกมของจีนขับเคลื่อนพลังเทคโนโลยีของตนอย่างไร

Continue Reading

จีน

เหตุใดจีนจึงต้องการจำกัดมิตรภาพที่ “ไม่มีขีดจำกัด” กับรัสเซีย

Published

on

จีนทบทวนมิตรภาพ “ไร้ขีดจำกัด” กับรัสเซียใหม่ แสดงความระมัดระวังมากขึ้น เหตุความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ขณะพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับตะวันตก


Key Points

  • ก่อนรุกรานยูเครน จีนเน้นมิตรภาพไร้ขีดจำกัดกับรัสเซีย แต่ความหมายเปลี่ยนไปเมื่อสงครามยืดเยื้อ นักวิชาการจีนบางคนย้ำความระมัดระวังในการสร้างพันธมิตรกับรัสเซีย

  • รัฐบาลจีนพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับรัสเซียและตะวันตก การลงทุนทางเศรษฐกิจในรัสเซียถูกตั้งคำถาม

  • ความแตกต่างทางเศรษฐกิจและแนวโน้มระหว่างประเทศทำให้ความร่วมมือทางทหารจีน-รัสเซียไม่แข็งแกร่งขึ้น ความไม่ไว้วางใจกันเป็นอุปสรรคสำคัญในความสัมพันธ์

ก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครน จีนได้ประกาศมิตรภาพ “ไม่มีขีดจำกัด” กับรัสเซีย โดยตั้งความหวังว่าจะมีความร่วมมือในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามดำเนินไปเกินสองปี มุมมองเกี่ยวกับคำมั่นนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป ขณะนี้มีการถกเถียงภายในประเทศจีนเกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมในการมีพันธมิตรกับรัสเซีย บ้างสนับสนุนให้มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้น ในขณะที่คนอื่นเลือกวิถีทางที่ระมัดระวังมากขึ้น

การตั้งคำถามต่อเสถียรภาพของรัสเซียเริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังจากการกระทำของกลุ่มวากเนอร์และการโจมตีจากยูเครน ทั้งยังสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพภายในของรัสเซีย นักวิชาการจีนหลายคนเสนอแนะว่า จีนควรรักษาระยะห่างทางยุทธศาสตร์จากรัสเซีย อีกทั้งเศรษฐกิจของจีนยังพึ่งพาการค้าขายกับรัสเซียอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังมีความพยายามปลีกตัวออกมาจากการพึ่งพาต่างชาติเช่นกัน

ด้านต่างประเทศ รัสเซียต้องการเปลี่ยนแปลงระบบนานาชาติเพื่อสร้างระบบใหม่ซึ่งขัดกับมุมมองของจีนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้มีบทบาทมากกว่า นักยุทธศาสตร์ชาวจีนจึงเน้นย้ำช่องว่างในมิตรภาพที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ระหว่างสองประเทศ แม้ว่าจะมีความมั่นคงในภูมิภาค แต่ความไม่ไว้วางใจยังคงเป็นอุปสรรค

ในช่วงที่ผ่านมา มีการตั้งคำถามถึงคุณค่าของรัสเซียในฐานะพันธมิตรทางทหาร เนื่องจากสงครามในยูเครนยังไม่สิ้นสุด นักวิชาการได้เตือนว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียอาจทำให้จีนต้องพึ่งพามากเกินไป ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จีนพยายามหลีกเลี่ยง จึงจำเป็นที่จีนจะต้องรักษาความเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับรัสเซีย โดยไม่ทำลายความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก

จากวิกฤติระหว่างสหรัฐฯ และจีนในปัจจุบัน รัสเซียอาจพยายามหาผลประโยชน์จากการเผชิญหน้า แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่สร้างความไม่แน่นอนต่อความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ซ้ำยังมีเสียงเตือนเกี่ยวกับอันตรายของการพึ่งพาที่มากเกินไปว่าอาจทำให้จีนโดดเดี่ยวและอ่อนแอลงในเวทีโลก

Source : เหตุใดจีนจึงต้องการจำกัดมิตรภาพที่ “ไม่มีขีดจำกัด” กับรัสเซีย

Continue Reading