ZTE ได้รับการจัดอันดับจาก ABI Research ให้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G FWA

เซินเจิ้น, จีน, 21 ม.ค. 2568 /PRNewswire/ — ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบบูรณาการชั้นนำระดับโลก ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำโดยรวม ผู้นำด้านนวัตกรรม และผู้นำด้านการประยุกต์ใช้งาน ในรายงานประเมินศักยภาพทางการแข่งขันของผู้จำหน่าย 5G Fixed Wireless Access (FWA) CPE โดยองค์กรชั้นนำด้านการวิเคราะห์ตลาดอย่าง ABI Research

รางวัลนี้ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ ZTE ในตลาด 5G FWA โดยสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและกลยุทธ์การดำเนินงานที่โดดเด่น ZTE ได้รักษาตำแหน่งผู้นำระดับโลกในตลาด 5G FWA และ MBB มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการขยายธุรกิจในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ศูนย์บริการในต่างประเทศ 49 แห่ง ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งาน และความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ

"นวัตกรรมและการดำเนินงานที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางคือหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของ ZTE" Bai Keke รองประธานบริษัท ZTE Corporation และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายอินเทอร์เน็ตมือถือของ ZTE Mobile Devices กล่าว "การที่เราเป็นผู้นำในด้าน 5G FWA นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI นวัตกรรม 5G-Advanced และ Wi-Fi 7 มาใช้ เพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมต่อที่ชาญฉลาด ราบรื่น และครบวงจรสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก"

ABI Research ยกให้ ZTE เป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านนวัตกรรมและการดำเนินงานในตลาด FWA ระดับโลก

รายงานประเมินศักยภาพการแข่งขันของผู้จำหน่ายอุปกรณ์ 5G FWA CPE โดย ABI Research นั้นได้ประเมินผู้ผลิต 5G FWA CPE รายใหญ่ 10 รายตามเกณฑ์ด้านนวัตกรรมและการดำเนินงาน โดย ZTE ได้รับตำแหน่งสูงสุดในทั้งสองด้าน ในการนี้ Larbi Belkhit นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ ABI Research กล่าวว่า "ความสำเร็จของ ZTE ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยตรง และการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบนด์วิดท์และเพิ่มสมรรถนะนั้น ทำให้ได้รับตำแหน่งผู้นำด้านการดำเนินงานและผู้นำด้านนวัตกรรมในรายงานประเมินศักยภาพการแข่งขันของผู้จำหน่ายอุปกรณ์ 5G FWA CPE ของเรา"

รายงานดังกล่าวได้ยกย่องความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ ZTE ด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชัน FWA แบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วย AI รายแรกของอุตสาหกรรม การจัดสรรแบนด์วิดท์แบบไดนามิก และเทคโนโลยีเสาอากาศขั้นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่มีสัญญาณต่ำ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ ZTE ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับไฮเอนด์ ที่ครอบคลุมการใช้งานสำหรับบุคคล บ้านเรือน ยานพาหนะ และโซลูชัน IoT รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั่วโลกนั้น ยิ่งตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น

ZTE ได้ผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยี 5G FWA อย่างต่อเนื่อง และได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง ZTE G5 Ultra ซึ่งเป็นอุปกรณ์ FWA ระดับไฮเอนด์ที่ใช้เทคโนโลยี 5G-Advanced และ AI รายแรกของโลก พร้อมอัตราข้อมูลสูงสุดถึง 19Gbps โดย G5 Ultra มาพร้อมกับ Wi-Fi 7 แบบสามย่านความถี่ เสาอากาศอัจฉริยะแบบ beam-switching ในระดับ 13dBi ระบบเสาอากาศที่ขับเคลื่อนด้วย AI การจัดการ QoS อัจฉริยะ และระบบควบคุมด้วยเสียงแบบ AI ในตัว คุณสมบัติเหล่านี้เปิดโอกาสให้เชื่อมต่อได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกม สตรีมมิง และการทำงานทางไกล

ความสามารถในการดำเนินงานของ ZTE ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด โดยโซลูชัน 5G FWA ของบริษัทฯ ถูกนำไปใช้โดยผู้ให้บริการกว่า 150 รายใน 35 ประเทศ รวมถึงตลาดสำคัญในยุโรป เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ขณะที่การผนึกกำลังเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้ให้บริการเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของ ZTE ในฐานะพันธมิตรที่วางใจได้ ZTE ดูแลทั้งกลุ่มผู้บริโภคและองค์กร และมั่นใจว่าโซลูชันของบริษัทฯ ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเชื่อมต่อที่หลากหลายได้

ขับเคลื่อนอนาคตของ FWA ด้วยปรัชญาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง GIS พลัง AI

ZTE เดินหน้าตามปรัชญาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง GIS ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยผสานรวม Green (เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) Artificial intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) และ Security (ความปลอดภัย) เข้าไว้ในโซลูชัน 5G FWA แนวทางนี้ใช้ AI ขั้นสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้วยการเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบนด์วิดท์ได้ถึง 20% และลดความแออัดลง 30% โซลูชันของ ZTE ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วยระบบ AI ตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และฟีเจอร์อย่าง Child Guardianship เพื่อสร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับครอบครัว ขณะที่แพลตฟอร์ม Smart Cloud พลัง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการเปิดโอกาสให้จัดการอุปกรณ์ได้จากระยะไกล เพื่อลดความจำเป็นในการให้บริการถึงสถานที่ นอกจากนี้ เทคโนโลยี Super Antenna ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ ZTE ยังช่วยเพิ่มความเร็วและความเสถียรของเครือข่าย แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อน ซึ่งเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในแง่ประสิทธิภาพของ FWA

ทั้งนี้ การที่ ZTE เป็นที่ยอมรับนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทในการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องและดำเนินงานในระดับผู้นำตลาด ZTE มาพร้อมความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาเกือบสองทศวรรษ โดยมุ่งมั่นที่จะมอบเครือข่ายที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมผลักดันความเสมอภาคทางดิจิทัล และกำหนดอนาคตของการเชื่อมต่อในระดับโลก

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
ZTE Corporation
ฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: ZTE.press.release@zte.com.cn 

Source : ZTE ได้รับการจัดอันดับจาก ABI Research ให้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G FWA

The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner.The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of ThailandChina.